Mid-Month Promotion! Use code BUNDLE15 to get 15% off. Plus, get an additional 5% off with code BUNDLE20 on orders over 7,000 baht. Offer valid until September 30th, 2025.

4 วิธีดูแลเสื้อผ้าหน้าฝน ทำอย่างไรให้เนื้อผ้าสวย กลิ่นไม่เหม็นอับ

By bialo.marketing
Share

การซักผ้าหน้าฝนมีความชื้นสูงและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการตากผ้า ทำให้การดูแลเสื้อผ้ากลายเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากเสื้อผ้ามักเกิดกลิ่นอับชื้นและเนื้อผ้าเสื่อมสภาพเร็ว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อความสวยงามของเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของผู้สวมใส่อีกด้วย เราจึงได้รวบรวมแนวทางและวิธีดูแลเสื้อผ้าในช่วงหน้าฝนมาฝากทุกคน เพื่อให้เสื้อผ้ายังคงคุณภาพดี กลิ่นหอมสะอาด และพร้อมใช้งานอยู่เสมอแม้ในสภาพอากาศที่ท้าทาย

Content Highlight

  • การดูแลเสื้อผ้าในฤดูฝนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยป้องกันกลิ่นอับ เชื้อรา และการเสื่อมสภาพของใยผ้า ซึ่งมีผลต่อทั้งสุขอนามัยและความมั่นใจในการแต่งตัว การใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนซัก ตาก ไปจนถึงการจัดเก็บ ยังช่วยยืดอายุเสื้อผ้าและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวอีกด้วย
  • ปัญหาที่พบบ่อยในการดูแลเสื้อผ้าช่วงฤดูฝนคือ กลิ่นอับและเชื้อราที่เกิดจากการตากผ้าไม่แห้งสนิทหรือเก็บในที่อับชื้น รวมถึงผ้าแห้งช้าที่เสี่ยงทำให้เนื้อผ้าเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าปกติ
  • หลีกเลี่ยงการแช่ผ้านานหรือใช้กลิ่นหอมกลบกลิ่นอับ เพราะอาจทำให้เสื้อผ้าเหม็นติดลึกและไม่สะอาด ที่สำคัญอย่าใช้ไม้แขวนสนิมเพื่อป้องกันคราบฝังแน่น
ความสำคัญของการดูแลเสื้อผ้าในฤดูฝน

ความสำคัญของการดูแลเสื้อผ้าในฤดูฝน

ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่มักเกิดปัญหาเกี่ยวกับเสื้อผ้า เช่น ผ้าแห้งช้า กลิ่นไม่พึงประสงค์ การสะสมของเชื้อรา และการเสื่อมสภาพของใยผ้า ซึ่งล้วนส่งผลต่อสุขอนามัยและภาพลักษณ์ของผู้สวมใส่ การดูแลอย่างเหมาะสมจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของความสะอาด แต่ยังเกี่ยวข้องกับการถนอมเสื้อผ้าและลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ปัญหาที่พบบ่อยในการดูแลเสื้อผ้าช่วงฤดูฝน

  • กลิ่นอับ การตากผ้าไม่แห้งสนิท หรือเก็บในที่อับชื้น ทำให้เกิดกลิ่นหมักหมมจากเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งกำจัดได้ยากและอาจตกค้างแม้ผ่านการซักหลายครั้ง
  • เสื้อผ้าแห้งช้า แสงแดดที่ลดลงและความชื้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผ้าใช้เวลานานในการแห้ง เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในพื้นที่ตากผ้าที่ไม่มีอากาศถ่ายเทดี
  • เชื้อราขึ้นผ้า ผ้าที่ไม่ได้รับการตากจนแห้งสนิท หรือถูกเก็บไว้ทั้งที่ยังมีความชื้นภายใน อาจเกิดเชื้อรา ซึ่งไม่เพียงทำลายเนื้อผ้าแต่ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ
  • เนื้อผ้าเสื่อมคุณภาพ การซักบ่อยเกินไป การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกัดกร่อนสูง หรือการตากผ้าในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม ล้วนทำให้เนื้อผ้าแข็ง หยาบ หรือเสียทรงได้เร็วขึ้น

ขั้นตอนในการดูแลเสื้อผ้าหน้าฝนไม่ให้เหม็นอับ

1. ซักผ้าทันทีหลังใช้ ไม่ปล่อยหมักหมม

ไม่ควรปล่อยเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไว้ในตะกร้านาน โดยเฉพาะเสื้อที่เปียกเหงื่อหรือโดนฝน เพราะจะเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ควรซักทันที หรือหากยังไม่พร้อมซัก ควรผึ่งให้แห้งก่อนใส่ตะกร้า เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นอับตั้งแต่ต้นทาง

2. เพิ่มน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรป้องกันกลิ่นอับ

การใช้น้ำยาซักผ้าหรือปรับผ้านุ่มที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียช่วยป้องกันกลิ่นอับระหว่างการตากในที่ชื้น

ควรเลือกสูตรสำหรับฤดูฝนหรือสูตรกลิ่นหอมติดทนนาน เพื่อช่วยคงกลิ่นสดชื่นแม้แห้งช้า เป็นตัวช่วยเสริมที่ดีในวันที่ไม่มีแดด

ขั้นตอนในการดูแลเสื้อผ้าหน้าฝนไม่ให้เหม็นอับ

3. ตากผ้าในที่อากาศถ่ายเท แม้ไม่มีแดด

ซักผ้าหน้าฝนแม้จะไม่มีแดดแต่ควรเลือกมุมที่ลมผ่าน เช่น ใต้ชายคาหรือริมหน้าต่าง จะช่วยเร่งการระบายความชื้น แม้ไม่มีแสงแดดโดยตรง แต่ลมสามารถช่วยให้ผ้าแห้งได้เร็วขึ้น หลีกเลี่ยงการตากผ้าในห้องที่ไม่มีหน้าต่างหรืออากาศนิ่ง เพราะความชื้นจะสะสมง่าย

4. รีดผ้าหลังแห้งเพื่อลดความชื้นตกค้าง

แม้เสื้อผ้าจะแห้งแล้วจากการตาก แต่บางครั้งเนื้อผ้าอาจยังเก็บความชื้นไว้ในเส้นใย โดยเฉพาะผ้าหนา เช่น ผ้าขนหนูหรือกางเกงยีนส์ การรีดผ้าด้วยเตารีดร้อน (แบบไม่ใช้ไอน้ำ) จะช่วยไล่ความชื้นที่เหลืออยู่ และลดโอกาสการเกิดกลิ่นอับหรือเชื้อรา

5. เก็บผ้าในตู้เมื่อแห้งสนิทเท่านั้น

ก่อนพับผ้าเก็บเข้าตู้ควรตรวจให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าแห้งสนิทจริง โดยเฉพาะบริเวณตะเข็บหรือเนื้อผ้าหนา ๆ เช่น ปลายแขน หรือชายกางเกง หากเก็บผ้าที่ยังมีความชื้นเล็กน้อยจะทำให้เกิดกลิ่นอับภายในตู้ และเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา

6. วางถุงหอมในตู้เสื้อผ้าเพื่อป้องกันกลิ่นอับ

การวางถุงหอม น้ำมันหอมระเหย หรือถ่านดูดกลิ่นในตู้เสื้อผ้าช่วยดูดซับความชื้นและป้องกันกลิ่นอับได้ดี

ควรเลือกกลิ่นหอมอ่อน ๆ เช่น ลาเวนเดอร์ ซีดาร์วูด หรือยูคาลิปตัส ที่ไม่ฉุนจนเกินไป วางไว้ในมุมตู้โดยไม่สัมผัสกับผ้าโดยตรง เพื่อป้องกันคราบจากน้ำมันหอมระเหยหรือกลิ่นติดผ้าแรงเกินไป

วิธีจัดการกลิ่นอับที่ตกค้างเมื่อซักผ้าหน้าฝน

1. แช่ผ้าด้วยน้ำส้มสายชูหรือน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวก่อนซัก

การแช่ผ้าด้วยน้ำส้มสายชู ควรผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วยตวง ต่อน้ำเปล่า 4–5 ลิตร ไม่ควรเทลงบนผ้าโดยตรง เพราะอาจทำลายเนื้อผ้าได้ แช่ผ้าทิ้งไว้ 15–30 นาที จากนั้นล้างน้ำเปล่าก่อนซักตามปกติ ช่วยลดกลิ่นอับและทำให้ผ้านุ่มขึ้นโดยไม่ต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม

วิธีจัดการกลิ่นอับเมื่อซักผ้าหน้าฝน

2. เพิ่มเบกกิ้งโซดาหรือผงซักฟอกสูตรดับกลิ่นในขั้นตอนซัก

เบกกิ้งโซดาช่วยดูดกลิ่นและขจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับ เพียงใส่ครึ่งถ้วยลงไปพร้อมผงซักฟอกก็ช่วยให้เสื้อผ้าหอมสดชื่นยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการดูแลเสื้อผ้าฤดูฝนที่มักเจอกลิ่นไม่พึงประสงค์สะสมบ่อย

3. อบผ้าด้วยเครื่องอบหรือลมร้อนหลังตากในที่ร่ม

หากตากผ้าในร่มจนแห้งแล้วแต่ยังรู้สึกว่าผ้ายังมีกลิ่นอับควรนำไปอบต่อด้วยลมร้อนประมาณ 10–15 นาที โดยการใช้เครื่องอบผ้าหรือการใช้พัดลมเป่าอุ่นจะช่วยไล่ความชื้นลึกในเนื้อผ้าได้ดีกว่าการตากธรรมดา เป็นอีกหนึ่งวิธีเสริมในช่วงที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ

4. ใช้สเปรย์ดับกลิ่นผ้าหลังซัก หรือก่อนใส่ตู้

สเปรย์ดับกลิ่นผ้าที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และสารฆ่าเชื้อช่วยรีเฟรชผ้าหลังแห้ง ฉีดบาง ๆ ก่อนเก็บเข้าตู้หรือก่อนสวมใส่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดกลิ่นตกค้าง เหมาะกับการดูแลเสื้อผ้าฤดูฝนในวันที่ผ้าแห้งไม่ทันใจและต้องใช้งานเร่งด่วน

ข้อควรระวังในการดูแลเสื้อผ้าในฤดูฝน

  • อย่าใช้กลิ่นหอมกลบกลิ่นอับโดยไม่ซักใหม่ การฉีดสเปรย์หอมหรือใช้ถุงหอมเพื่อกลบกลิ่นอับ อาจทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นผสมที่ไม่พึงประสงค์ และไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
  • อย่าแช่ผ้านานเกินไป บางคนแช่ผ้าทิ้งไว้เพื่อรอซักตอนฝนหยุด แต่การแช่นานเกิน 1–2 ชั่วโมง จะทำให้เสื้อผ้าหมักหมมและกลิ่นติดลึกจนซักไม่ออก
  • ห้ามใช้ไม้แขวนที่ขึ้นสนิม ไม้แขวนเหล็กที่เริ่มขึ้นสนิมจะทำให้ผ้ามีคราบฝังแน่น โดยเฉพาะเวลาตากในที่ชื้น ควรเปลี่ยนเป็นไม้แขวนพลาสติกหรือแบบไม้
  • อย่าปล่อยตู้เสื้อผ้าแน่นเกินไป ตู้ที่อัดแน่นเกินไปในฤดูฝนจะไม่มีอากาศไหลเวียน ผ้าจะไม่หอมแม้ซักสะอาดแล้ว ควรจัดตู้ให้โปร่ง และเว้นที่ให้มีลมหมุนเวียน

สรุป

การดูแลเสื้อผ้าในฤดูฝนอย่างมืออาชีพต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจในธรรมชาติของผ้าและสภาพแวดล้อม โดยอาศัยทั้งเทคนิคพื้นฐานและเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การจัดสภาพแวดล้อมในการตากผ้า หรือการเก็บรักษาอย่างเป็นระบบ การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้เสื้อผ้ามีอายุการใช้งานยาวนาน คงความสวยงาม และไม่เกิดปัญหากลิ่นอับแม้ในช่วงที่มีความชื้นสูงอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูฝน

Latest Stories

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Analytics Cookies

    Analytics services serve to improve the performance and functionality of this website by collecting and reporting information anonymously.

บันทึกการตั้งค่า
SIZE CHART
Welcome

Log in with your email and password

Didn’t have an account? CREATE ACCOUNT

Or continue with

By joining you agree to the Milmoune Terms of Service and to occasionally receive emails from us. Please read Privacy Policy to learn how we use your personal data.